ศคธ ชี้ การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยระบบนิเวศคุณธรรม เริ่มจาก ผู้ใหญ่-ครอบครัว ต้องเป็นต้นแบบที่ดี พร้อมเสนอใช้คำว่า วิถีชีวิต แทนคำว่า ปลูกฝัง คุณธรรม


วิถีชีวิตยั่งยืน

สภาคณาจารย์สภาพนักงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียงศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคมศูนย์นวัตกรรมทางธุรกิจศูนย์ปัญญาทัศน์เพื่อการจัดการศูนย์พัฒนาและบริการด้านภาษาและการสื่อสารศูนย์ประสานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ศูนย์คลังปัญญาและสารสนเทศสหกรณ์ออมทรัพย์ สพบ. ดำเนินรายการโดย ดร.ธิติยา บุญประเทือง ผู้ช่วยนักวิจัยอาวุโส สวทช.

วิถีชีวิตยั่งยืน

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงร่วม สืบสานพระราชปณิธาน ดำเนินนโยบาย โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนา อย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริ เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของผู้ว่าการ กฟผ. ให้มีการส่งเสริมการใช้ จุลินทรีย์ทั้ง four ด้าน ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์ ด้านประมง และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเศรษฐกิจ โดยการดำเนินชีวิต แบบพออยู่ พอกิน พึ่งพาตนเองได้ด้วยการทำเกษตรธรรมชาติ ลดการใช้ สารเคมี จึงได้จัดตั้งกลุ่มงาน โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ. หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านความสอดคล้องเนื้อหา ได้แก่ ข้อริเริ่มระดับโลกว่าด้วยการศึกษาต้องมาก่อน (Global Education First Initiative) ซึ่งประกาศโดยเลขาธิการสหประชาชาติ  เมื่อปี 2012 ข้อริเริ่มนี้มีความสำคัญ 3 ประการ คือ การให้เด็กทุกคนได้เข้าเรียน การพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ และการส่งเสริมการเป็นพลเมืองโลก เนื่องจากตระหนักว่า “การเข้าถึงการศึกษาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ แต่ยังไม่เพียงพอ” ในการดำเนินการตามข้อริเริ่มดังกล่าว ยูเนสโกจึงได้จัดทำโครงร่างเรื่องการศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นพลเมืองโลกขึ้น  (UNESCO 2013b; UNESCO 2014a). ยูเนสโกได้นำเสนอเอกสารต่อที่ประชุมสมัยสามัญในปี 2013 ว่า “ยูเนสโกได้เน้นวิสัยทัศน์ด้านมนุษยธรรม และลักษณะองค์รวมของการศึกษาว่าเป็นพื้นฐานของการพัฒนาบุคคล รวมถึงเศรษฐกิจและสังคม วัตถุประสงค์ของการศึกษาเป็นไปเพื่อการพัฒนาและเสริมสร้างพลังประชาชน ให้บรรลุความต้องการพื้นฐานของบุคคล ตอบสนองความคาดหวัง และนำไปสู่การบรรลุความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน และประเทศชาติ” (UNESCO 2013a).

วิถีชีวิตยั่งยืน